Sensory Processing Problem in Gifted child
เด็กอัจฉริยะ ปัญญาเลิศ หรือเด็ก Gifted Child หมายความว่า ผู้ที่มีความสามารถโดดเด่น มีการใช้ทักษะความสามารถได้ดี มีสติปัญญาสูง มีความฉลาดในการเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความสามารถในการเป็นผู้นำ1 โดยเด็ก Gifted อาจแสดงลักษณะดังต่อไปนี้
ลักษณะของเด็ก Gifted Children2
ด้านสติปัญญา (Cognitive Traits)
- ช่างสังเกต (Very Observant)
- มีความอยากรู้ อยากเห็นแบบสุดโต่ง (Extremely Curious)
- แสดงความสนใจต่อบางสิ่งอย่างมาก (Intensive interests)
- มีความจำเป็นเลิศ (Excellent memory)
- คงช่วงความสนใจกับบางสิ่งได้นาน (Long attention span)
- ทักษะการใช้เหตุผลดีเลิศ (Excellent reasoning skills)
- พัฒนาการความคิดเชิงนามธรรม (abstraction) การสังเคราะห์ (synthesis) และการคิดรวบยอดเร็ว (conceptualization)
- เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของแนวคิด (ideas) วัตถุประสงค์ (objects) และหลักความจริง (facts) ได้เร็ว
- ปรับเปลี่ยนความคิดได้เร็ว (Fluent and flexible thinking)
- มีความคิดที่ซับซ้อน
- ทักษะการแก้ไขปัญหาเป็นเลิศ
- เรียนรู้จากการฝึกฝนได้เร็ว
- มีจินตนาการสูง
ด้านสังคมและอารมณ์ (Social and Emotional Traits)
- มีความสนใจเกี่ยวกับปรัชญาสังคม (Interested in philosophical and social issues)
- อารมณ์อ่อนไหว ตอบสนองไว (very sensitive and emotionally)
- รักความยุติธรรม (fairness and injustice)
- เจ้าระเบียบ (Perfectionistic)
- มีอารมณ์ขบขัน (Well-Developed Sense of Humor)
- มีแรงจูงใจภายในสูง (intrinsically motivated)
- มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง ครูหรือผู้ใหญ่
ด้านภาษา (Language Traits)
- ใช้คำศัพท์ได้ดี (Extensive vocabulary)
- อาจจะอ่านหนังสือเป็นเร็วกว่าวัย
- อ่านได้เร็ว
- มักถามในลักษณะที่ว่า “ถ้า....แล้ว....” (Asks “what if” questions)
ลักษณะอื่นๆ ที่อาจพบ (Additional Traits)
- ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่
- ชอบกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิด
- เล่นโดยใช้ความคิด (Displays intellectual playfulness)
- ชอบหนังสือของเด็กที่โตกว่าวัย
ความไม่สอดคล้องกันในพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กปัญญาเลิศ (Asynchronous development of Gifted children)3
ในเด็กทั่วไปพัฒนาการทางด้านความคิด (Intellectual) ด้านร่างกาย (physical) และด้านอารมณ์ (emotional) มักมีการพัฒนาในระดับที่เท่าๆ กัน เมื่อเทียบกับอายุเด็ก แต่ในเด็ก Gifted นั้นพัฒนาการแต่ละด้านที่กล่าวมาอาจเร็ว หรือช้า แตกต่างกันไป เช่น เด็ก Gifted อายุ 3 ขวบอาจมีพัฒนาการดังนี้
- พัฒนาการทางด้านความคิดและสติปัญญา (Intellectual ability) เท่ากับเด็กอายุ 6 ขวบ
- พัฒนาการทางด้านร่างกาย (Physical ability) เท่ากับเด็กอายุ 3 ขวบ
- พัฒนาการทางด้านอารมณ์ (Emotional maturity) เท่ากับเด็กอายุ 2 ขวบ
หรือ
- พัฒนาการทางด้านความคิดและสติปัญญา (Intellectual ability) เท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ
- พัฒนาการทางด้านร่างกาย (Physical ability) เท่ากับเด็กอายุ 3 ขวบ
- พัฒนาการทางด้านอารมณ์ (Emotional maturity) เท่ากับเด็กอายุ 4 ขวบ
หรือ
- พัฒนาการทางด้านความคิดและสติปัญญา (Intellectual ability) เท่ากับเด็กอายุ 6 ขวบ
- พัฒนาการทางด้านร่างกาย (Physical ability) เท่ากับเด็กอายุ 2 ขวบ
- พัฒนาการทางด้านอารมณ์ (Emotional maturity) เท่ากับเด็กอายุ 3 ขวบ
ปัญหาที่อาจพบในเด็ก Gifted child4
- อาจมีความยากลำบากในการทำงานง่ายๆ เช่น การเขียนพื้นฐาน การสะกด หรือเลขคณิตอย่างง่าย แต่กลับทำสิ่งที่ซับซ้อนบางอย่างได้ เช่น เข้าใจหลักการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน สนทนาโดยใช้ภาษาที่ซับซ้อนได้ หรือมีทักษะทางคอมพิวเตอร์ที่สูง
- มีความยากลำบากในการเขียน (written expression) การใช้ดินสอ สับสนเกี่ยวกับตัวเลข หรือตัวหนังสือ
- ด้านการพูด และความสามารถต่างๆ ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน
- มีปัญหาการเรียนบางด้าน (poor performance in one or more academic areas)
- ขาดทักษะการจัดการ (organization skill)
- ขาดทักษะทางสังคม (poor social skill)
- ดื้อ ไม่เชื่อฟัง
- อารมณ์อ่อนไหวต่อคำติเตียน
- หงุดหงิดง่าย
- ก่อกวนห้องเรียน
- มีความอยากที่จะประสบความสำเร็จมาก และกลัวความผิดพลาด ล้มเหลว5
- จดจ่อ และหมกมุ่นเฉพาะสิ่งที่ตนเองสนใจ5
ปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ และสังคมที่มักพบในเด็ก Gifted นั้นอาจเกิดขึ้นจากความบกพร่องในการบูรณาการประสาทความรู้สึก (Sensory Processing/Integration Disorder) โดยจากการวิจัยของ Douglas R. Gere1 พบว่าเด็ก Gifted มีระบบประสาทที่ไวต่อสิ่งแวดล้อม และการตอบสนองทางอารมณ์และพฤติกรรมที่ไวกว่าเด็กทั่วไป ซึ่งอาจเกิดจากการตอบสนองที่มากเกินไปของระบบประสาทความรู้สึก (Sensory Over-Responsive) ทำให้เกิดภาวะระบบประสาทถูกกระตุ้นมากจนเกินไป5 (sensory overload) ส่งผลให้มีปัญหาทางอารมณ์ และพฤติกรรม เช่น หงุดหงิดง่าย ขี้โมโห หลีกหนี แยกตัว เป็นต้น
การศึกษาปัญหาการบูรณาการประสาทความรู้สึก (SPD) ในเด็ก Gifted พบว่า6
- กรณีศึกษานำร่อง (pilot study) โดยมูลนิธิ SPD Foundation พบว่าเด็ก 35% จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 500 คน จากศูนย์อัจฉริยภาพเด็กและเยาวชน มีอาการพร่องในการบูรณาการระบบประสาทความรู้สึก (SPD) อย่างมีนัยสำคัญ
- การศึกษาอื่นๆ พบว่า เกือบร้อยละ 17 ของเด็กปัญญาเลิศ (gifted children) จากศูนย์ต่างๆ มีปัญหาอื่นๆ ร่วมด้วย (coexisting disorder) ซึ่งรวมถึงภาวะบกพร่องในการบูรณาการประสาทความรู้สึก (SPD)
- ความบกพร่องในการบูรณาการประสาทความรู้สึก (SPD) ในเด็กปัญญาเลิศ (gifted) อาจเป็นปัจจัยทางด้านลบต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญา ความรู้ความเข้าใจ อารมณ์ สังคม และพัฒนาการการเคลื่อนไหว (motor development)
- หากปัญหาต่างๆ ที่พบร่วมด้วยไม่ได้รับการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องทางการเรียนรู้บางด้าน (LD) หรือปัญหาในการบูรณาการประสารทความรู้สึก (SPD) จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางด้านสังคม อารมณ์อย่างถาวรจนถึงวัยผู้ใหญ่
- เด็กปัญญาเลิศ (gifted) ส่วนใหญ่มีปัญหาการบูรณาการประสาทความรู้สึก (SPD) ในส่วนของการปรับระดับข้อมูลความรู้สึก (Sensory Modulation Disorder) แต่บางคนอาจมีปัญหาบูรณาการประสาทความรู้สึกในส่วนของการรับความรู้สึกเคลื่อนไหว (Sensory-Base Motor Disorder) ในด้านการวางแผนการเคลื่อนไหว (Dyspraxia)
- ความสูงของระดับสติปัญญาในเด็กปัญญาเลิศ (level of giftedness) มีความสัมพันธ์กับระดับการตอบสนองที่มากเกินไปต่อความรู้สึกเจ็บปวด เสียง การสัมผัส และการรับกลิ่น
เปรียบเหมือนดาบสองคมสำหรับเด็กอัจฉริยะ ปัญญาเลิศ (Gifted) ที่มีความฉลาด และระดับสติปัญญาสูงโดดเด่นกว่าเด็กทั่วไป ทำให้เกิดการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่การตระหนักและตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นที่มากเกินไปนั้นทำให้หนึ่งในสามของเด็กกลุ่มนี้มีปัญหาการควบคุมอารมณ์ และพฤติกรรมของตนเอง (Regulation) ส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสังคมและการปรับตัวของเด็ก หากพบว่าเด็กมีลักษณะเข้าข่ายเด็กปัญญาเลิศ (Gifted) แต่มีการตอบสนองที่มากเกินไปของระบบประสาทรับความรู้สึก (Sensory Over-responsive) จนกระทบต่อพัฒนาการความสามารถตามวัยของเด็ก ควรแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ หรือนักกิจกรรมบำบัดที่มีความรู้ในด้านการบูรณาการประสาทความรู้สึก (Sensory Processing/Integration)
เรียบเรียงโดย ครูต้น นักกิจกรรมบำบัด ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก Mind Brain & Body 23 กรกฎาคม 2558
Reference
- Douglas R. Gere,.. “Sensory sensitivities of gifted children” American Journal of Occupation Therapy (2009) สืบค้นได้จาก http://ajot.aota.org/article.aspx?articleid=1865840&resultClick=3 (มกราคม 2556)
- Carol Bainbridge., “Characteristics of gifted Children” สืบค้นจาก http://giftedkids.about.com/od/gifted101/a/giftedtraits.htm (กรกฎาคม 2558)
- Carol Bainbridge., “Asynchronous Development” สืบค้นจาก http://giftedkids.about.com/od/glossary/g/asynchronous.htm (กรกฎาคม 2558)
- Ministry of Education TE TAHUHU O TE MATAURANGA “Characteristics of Twice exceptional students” สืบค้นได้จาก http://gifted.tki.org.nz/For-schools-and-teachers/Twice-exceptional-2E-students/Characteristics (กรกฎาคม 2558)
- Angie Voss, OTR, “The Gifted and Sensory Connection” สืบค้นจาก http://asensorylife.com/the-gifted-and-sensory-connection.html (กรกฎาคม 2558)
- Paula Jarrard, MS OTR, “Sensory Issues in Gifted Children: Synthesis of the Literature”, edited by LJ Miller March, 2008 สืบค้นจาก http://www.spdfoundation.net/about-sensory-processing-disorder/gifted/ (กรกฎาคม 2558)
ความคิดเห็น